วิศวกรรมศาสตร์ เป็นสาขาวิชาความรู้ที่ขับเคลื่อนโลกใบนี้ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมอันทันสมัย ทว่า สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากวิศวกรขาดทักษะการสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถเชื่อมต่อผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากแขนงต่าง ๆ ทั่วโลกให้เข้ามาระดมความคิด เสนอแบบร่าง และจัดทำแผนงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้
ทั้งนี้ การเดินทางไปศึกษา ณ ต่างประเทศในระดับปริญญาตรีนั้นไม่เพียงแต่เสริมสร้างองค์ความรู้ ทักษะอาชีพ และทักษะชีวิตให้แก่ผู้เรียน ยังมีปัจจัยเรื่องการเตรียมตัวเดินทางและการวางแผนการเรียนที่พวกเขาต้องรับมือ ดังนั้นคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงจัดตั้งโครงการหลักสูตรที่ช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ นั่นคือ หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตสองสถาบัน (Twinning Engineering Programme: TEP) ภายใต้ความร่วมมือจากสามมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านวิศวกรรมที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก
โดยหลักสูตร TEP ในสองปีแรก จะมีการจัดการเรียนการสอนขึ้นที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อเรียนรู้ศาสตร์เบื้องต้นของวิศวกรรม และหลักสูตรทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่สภาวิศวกรไทยกำหนด หลังจากนั้นในสองปีหลังจะเป็นการเดินทางไปศึกษาต่อ ณ หนึ่งในสามมหาวิทยาลัยคู่สัญญา
เมื่อจบการศึกษาแล้วนักศึกษาจะได้รับปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตจากทั้ง 2 สถาบัน คือ จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ได้รับอนุมัติจากสภาวิศวกรไทย และจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศที่นักศึกษาเลือกไปศึกษาต่อ นับว่าเป็นการสร้างเสริมโอกาสทางการศึกษาอันยิ่งใหญ่ให้แก่นักศึกษาโครงการ TEP ที่เราภาคภูมิใจ
3 มหาวิทยาลัยคู่สัญญาชั้นนำ ได้แก่
The University of Nottingham, UK
UNSW Sydney, Australia
KU Leuven, Belgium
เป็นมหาวิทยาลัยที่ติดหนึ่งใน 100 มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกอย่างต่อเนื่อง (จัดอันดับจาก QS) ในเรื่องของการบุกเบิกและพัฒนาหลักสูตรการศึกษาและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้เรียน ทั้งยังมีการนำเสนอผลงานวิจัยในเวทีโลกที่ช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้คนในสังคม ขณะนี้มหาวิทยาลัยแห่งนอตติงแฮมมีนักศึกษามากกว่า 46,000 คนจาก 150 ประเทศ เข้าศึกษาใน 3 วิทยาเขต ได้แก่ สหราชอาณาจักร สาธารณรัฐประชาชนจีน และสหพันธรัฐมาเลเซีย
คณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งนอตติงแฮม มีความภาคภูมิใจที่มีส่วนช่วยส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมในหลักสูตรระดับปริญญา ขณะเดียวกันทางคณะฯ ก็มีการสานต่อความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับองค์กรหลายแห่งซึ่งเป็นประโยชน์ต่อวงการธุรกิจและนักศึกษาปัจจุบันในหลากหลายรูปแบบ
มากกว่า 20 ปี ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และมหาวิทยาลัยแห่งนอตติงแฮมได้ดำเนินงานร่วมกันในแวดวงวิศวกรรมศาสตร์ ความร่วมมือนี้ช่วยให้นักศึกษาสามารถสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีโดยได้รับปริญญาบัตร 2 ฉบับ กล่าวคือ ฉบับแรกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประเทศไทย และอีกฉบับจากมหาวิทยาลัยแห่งนอตติงแฮม ประเทศสหราชอาณาจักร
นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัยยังได้มอบทุนส่วนลดค่าเล่าเรียน ซึ่งในแต่ละปีที่ผ่านมา มีนักศึกษาแต่ละสาขาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มากกว่า 40 คนเข้าศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยแห่งนอตติงแฮม ทุนการศึกษาเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและประสบการณ์ระดับสากลให้แก่ผู้เรียน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนช่วยขับเคลื่อนโครงการ
หลักสูตรการศึกษา
TEP - NU จะเปิดสอนสาขาวิชาวิศวกรรมทั้งหมด 6 สาขา ได้แก่
ทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งนอตติงแฮม
นักศึกษาทุกคนในหลักสูตร TEP - NU มีสิทธิ์ได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียมการศึกษา 25% เมื่อเข้าไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยนอตติงแฮมในช่วงสองปีหลังของหลักสูตร และรับส่วนลดค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 15% หากเป็นนักศึกษาที่มีผลการเรียนดีเป็น 4 อันดับแรกในชั้นปี
ข้อกำหนดการไปศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยแห่งนอตติงแฮม
นักศึกษาจะต้องมี ผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 5 ภาคการศึกษา ไม่ต่ำกว่า 2.40 ในหลักสูตรที่เปิดสอนในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประกอบกับการพิจารณาผลคะแนนภาษาอังกฤษ IELTS Overall ไม่ต่ำกว่า 6.0 (โดยแต่ทักษะต้องไม่น้อยกว่า 5.5)
เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำจากทั้งหมด 8 แห่ง ด้านการเรียนการสอนและการค้นคว้าวิจัยของออสเตรเลีย หรือที่เรียกว่า “The group of Eight” (Go8) และยังเป็นหนึ่งสมาชิกในเครือข่ายระดับโลกของบรรดามหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นด้านการวิจัยในระดับสากลจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ
ทั้งยังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในเครือมากกว่า 250 แห่ง และทำงานอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งภายในและภายนอกประเทศ เพื่อให้แน่ใจว่าหลักสูตรนั้นทันสมัย มุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมที่เอื้ออำนวยให้ผู้สำเร็จการศึกษามีความพร้อมเข้าสู่โลกการทำงาน
มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ มีนักศึกษากว่า 40,000 คน และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานกว่า 5,000 ชีวิต พร้อมที่จะให้การต้อนรับนักศึกษาต่างชาติซึ่งขณะนี้มีจำนวนมากกว่า 9,000 คนจากทุกภูมิภาคทั่วโลก ถือเป็นการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่มีพลวัตขับเคลื่อนภายในมหาวิทยาลัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัยยังรักษาความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับศิษย์เก่าผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีการขยายฐานการทำงานไปทั่วโลก พวกเขามีทักษะโดดเด่นไม่เพียงการทำงานกับภาครัฐ แต่รวมไปถึงภาคอุตสาหกรรมในประเทศบ้านเกิดของตนเองด้วย
มหาวิทยาลัยนี้ตั้งอยู่ศูนย์กลางของเขตชานเมืองทางด้านตะวันออกในซิดนีย์ เดินทางด้วยรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีจากสนามบิน ห่างจากใจกลางเมืองย่านธุรกิจประมาณ 20 นาที และตั้งอยู่ห่างจากชายหาดชื่อดังต่าง ๆ เช่น Bondi Beach และ Coogee Beach เพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น
มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เข้าถึงพื้นที่การเรียนการสอนและห้องปฏิบัติการล้ำสมัย รวมถึงหอสมุดของมหาวิทยาลัยยังเป็นแหล่งค้นคว้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในออสเตรเลีย และยังมี UNSW Foundation Year ตั้งอยู่ภายในลานกว้างอันร่มรื่นของมหาวิทยาลัยอีกด้วย
มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เข้าถึงพื้นที่การเรียนการสอนและห้องปฏิบัติการล้ำสมัย รวมถึงหอสมุดของมหาวิทยาลัยยังเป็นแหล่งค้นคว้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในออสเตรเลีย และยังมี UNSW Foundation Year ตั้งอยู่ภายในลานกว้างอันร่มรื่นของมหาวิทยาลัยอีกด้วย
หลักสูตรการศึกษา
TEP - UNSW จะเปิดสอนสาขาวิชาวิศวกรรมทั้งหมด 5 สาขา ได้แก่
โปรแกรมเพิ่มเติมภายใต้วิศวกรรมเครื่องกล
หมายเหตุ *** หลักสูตรเพิ่มเติมทั้งสามเปิดให้เข้าศึกษาตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งนักศึกษาปัจจุบันที่สนใจเข้าศึกษาในสาขานี้จะต้องสะสมเกรดเฉลี่ยให้อยู่ในเกณฑ์สูงในช่วงสองปีแรก เพื่อแข่งขันกันชิงที่นั่งในหลักสูตรการบินและอวกาศ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถปรึกษาได้ที่สำนักงาน TEP
กำหนดการรับเข้าเรียนของมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์
นักศึกษาจะต้องมี ผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 5 ภาคการศึกษา ไม่ต่ำกว่า 2.50 ในหลักสูตรที่เปิดสอนในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประกอบกับการพิจารณาผลคะแนนภาษาอังกฤษ IELTS Overall ไม่ต่ำกว่า 6.5 (โดยแต่ทักษะต้องไม่น้อยกว่า 6.0)
เป็นสถาบันเพื่อการวิจัยและการศึกษาที่ได้รับความสนใจจากนานาชาติ หลักสูตรทั้งหมดพัฒนามาจากงานวิจัยเชิงนวัตกรรมของนักวิทยาศาสตร์และคณาอาจารย์ ซึ่งทั้ง 16 คณะฯ มีการจัดการเรียนการสอน รวมทั้งกิจกรรมงานวิจัยที่จัดขึ้นตามวาระสำคัญ
มหาวิทยาลัยเคยูเลอเฟิน มีวิทยาเขตทั้งหมด 15 แห่งกระจายอยู่ทั่ว 11 เมืองในมณฑลฟลานเดอร์ ประเทศเบลเยียม ติดอันดับหนึ่งใน 50 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดจากทั่วโลก และยังเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป นอกจากนี้ พุทธศักราช 2568 จะมีการฉลองครบรอบ 600 ปีวันสถาปนามหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการอีกด้วย
ในปี 2019 Times Higher Education (THE) ได้จัดอันดับให้ มหาวิทยาลัยเคยูเลอเฟิน ขยับขึ้นมาสามอันดับ มาอยู่ในอันดับที่ 45 และติดอยู่ใน 50 อันดับแรกจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก โดยในปีนี้ยังคงเป็นมหาวิทยาลัยในเบลเยียมเพียงแห่งเดียวที่ติด 100 อันดับแรก แซงหน้ามหาวิทยาลัยทุกแห่งในเนเธอร์แลนด์ และเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับที่ 7 ในทวีปยุโรป
การเรียนใน CAMPUS GROUP T คณะเทคโนโลยีวิศวกรรม
Campus Group T ของมหาวิทยาลัยเคยูเลอเฟิน เป็นวิทยาเขตเดียวในเบลเยียมที่เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีและปริญญาโทด้านการศึกษาภาษาอังกฤษเต็มรูปแบบในสาขาเทคโนโลยีวิศวกรรม CGT คล้ายกับเป็นบ้านอันอบอุ่นที่มอบบรรยากาศความเป็นนานาชาติอย่างแท้จริงให้กับนักศึกษาดีเด่นคณะวิศวกรรม ปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตจาก มหาวิทยาลัยเคยูเลอเฟิน ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยเปิดประตูสู่ทั่วยุโรปซึ่งผู้เรียนสามารถเลือกเข้าศึกษาต่อในระดับสูงต่อไป หรือเริ่มต้นทำงานได้เลย
ที่ Campus Group T ผู้เรียนจะได้รับทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรม ได้เรียนรู้ว่าจะคิดให้พ้นกรอบและมีความสร้างสรรค์ในเวลาเดียวกันได้อย่างไร ผู้เรียนจะสามารถพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในเรื่องการกล้าได้กล้าเสีย และเข้าใจในระบบการทำงานเชิงลึกที่ส่งผลต่อธรรมชาติ สังคม และวัฒนธรรม จะเห็นว่า วิศวกรรมไม่ใช่วิชาความรู้ที่อยู่เพียงลำพัง หากแต่เชื่อมโยงกับสาขาอื่น เสมือนกับเป็นหมุดหมายสำคัญในโครงสร้างทั้งหมด ตามมุมมองโลกความเป็นจริง
สำหรับนักศึกษา คุณเห็นได้ว่าเบลเยียมเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความแตกต่างอย่างน่าอัศจรรย์ เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยผลงานศิลปะ โบราณสถานทางประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรม คุณจะได้ลิ้มรสอาหารท้องถิ่นจานพิเศษในบรรยากาศที่เป็นกันเอง ได้สัมผัสวิถีชีวิตที่มีความหลากหลาย สิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาที่ยอดเยี่ยม หอสมุด ร้านหนังสือ ร้านอาหาร ร้านจิบชากาแฟ และทิวทัศน์เชิงวัฒนธรรมที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวทัศนาตามรอยวัฒนธรรมตามเมืองต่าง ๆ ในยุโรป เช่น ลอนดอน ปารีส โคโลญ และอัมสเตอร์ดัม เพราะอยู่ไม่ไกลนักจากเบลเยียม ทั้งยังสามารถเดินทางโดยรถไฟและเครื่องบินในราคาประหยัดได้อย่างง่ายดาย เบลเยียมถือเป็นฐานที่ตั้งขององค์กรและบริษัทระหว่างประเทศหลายแห่ง และยังมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินงานของสหภาพยุโรปอีกด้วย
เบลเยียมมีภาษาราชการ 3 ภาษา ได้แก่ ดัตช์ ฝรั่งเศส และเยอรมัน แต่ปัจจุบันภาษาอังกฤษกำลังกลายมาเป็นภาษากลางในการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว ในทุก ๆ วัน คุณจะพบว่าพลเมืองเบลเยียมเกือบทุกคนสามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ ด้วยมาตรฐานการครองชีพที่มีคุณภาพที่สุดในโลก ชาวเบลเยียมได้รับประโยชน์จากหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประกันสังคม และระบบการศึกษาอันเป็นเลิศ สำหรับอาคันตุกะจากต่างชาติ ท่านจะได้พบกับภาพความประทับใจดังกล่าวข้างต้น พร้อมกับให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นตั้งแต่ครั้งแรก และดูแลอย่างดีในระหว่างพำนักที่นี่
หลักสูตรการศึกษา
นักศึกษาเรียนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นเวลาสองปี และเรียนต่ออีกสองปีที่ Campus Group T ณ มหาวิทยาลัยเคยูเลอเฟิน เมื่อสำเร็จการศึกษาตามข้อกำหนดแล้วจะได้รับปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (BEng: Mechanical) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต (BSc: Electromechanical Engineering) จาก มหาวิทยาลัยเคยูเลอเฟิน แห่งเบลเยียม เท่านั้นไม่พอ ยังมีการเปิดสอนหลักสูตรวิศวกรรมเครื่องกลไฟฟ้าสำหรับนักศึกษาที่สนใจเรียนต่อในสาขาวิชาเอกวิศวกรรมเครื่องกลอีกด้วย
วิศวกรเคมี จำเป็นต้องมีความรู้ในรายวิชาเคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ และคณิตศาสตร์ เพื่อออกแบบและควบคุมการทำงานของกระบวนการทางเคมีในระดับมหภาพ ใช้ความรู้ที่มีอยู่มาปรับปรุง หรือหาหนทางใหม่ในการสร้างสรรค์เคมีภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ เช่น เชื้อเพลิงพลังงาน อาหาร และยา
TU | NU/UNSW | TOTAL | |
---|---|---|---|
1.General Courses | 28 | 2 | 30 |
1.1 Part 1 | |||
1.1.1 Social Sciences | 6 | 0 | 6 |
1.1.2 Humanities | 3 | 0 | 3 |
1.1.3 Science and Mathematics | 3 | 0 | 3 |
1.1.4 Languages | 9 | 0 | 9 |
1.2 Part II | 7 | 2 | 9 |
2.Engineering Major Course | |||
2.1 Basic Courses | 24 | 0 | 24 |
2.1.1 Basic Mathematic and Sciences Courses | 17 | 0 | 17 |
2.1.2 Basic Engineering Courses | 7 | 0 | 7 |
2.2 Major Courses | |||
2.2.1 Compulsory Engineering Courses | 38 | 0 | 38 |
2.2.2 Technical Electives Courses | 0 | 45 | 45 |
3.Free Electives | 6 | 0 | 6 |
Total | 143 |
วิศวกรโยธา จำเป็นต้องมีความรู้และทักษะการวางแผน ออกแบบ ก่อสร้าง และบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆเช่น อาคารบ้านเรือน ถนนหนทาง สะพานเชื่อม ระบบรถราง สนามบิน ท่าเทียบเรือ ระบบชลประทาน และระบบประปา เป็นต้น
TU | NU/UNSW | TOTAL | |
---|---|---|---|
1.General Courses | 28 | 2 | 30 |
1.1 Part 1 | |||
1.1.1 Social Sciences | 6 | 0 | 6 |
1.1.2 Humanities | 3 | 0 | 3 |
1.1.3 Science and Mathematics | 3 | 0 | 3 |
1.1.4 Languages | 9 | 0 | 9 |
1.2 Part II | 7 | 2 | 9 |
2.Engineering Major Course | |||
2.1 Basic Courses | 24 | 0 | 24 |
2.1.1 Basic Mathematic and Sciences Courses | 17 | 0 | 17 |
2.1.2 Basic Engineering Courses | 7 | 0 | 7 |
2.2 Major Courses | |||
2.2.1 Compulsory Engineering Courses | 37 | 0 | 37 |
2.2.2 Technical Electives Courses | 0 | 48 | 48 |
3.Free Electives | 6 | 0 | 6 |
Total | 145 |
วิศวกรไฟฟ้า มุ่งเน้นไปที่การออกแบบ งานก่อสร้าง งานซ่อมและบำรุงรักษา ระบบควบคุมไฟฟ้า เครื่องจักร และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในสำนักงาน จึงจำเป็นต้องมีความรู้เฉพาะทางในเรื่องวงจรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลเชิงลึกในส่วนทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้า ระบบดิจิทัล ระบบการจ่ายพลังงานไฟฟ้า ระบบการสื่อสาร ระบบควบคุมแผงวงจร ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่อย่างเจาะลึก เช่น โรงไฟฟ้า การสื่อสารในสัญญาณดิจิทัล การสื่อสารด้วยแสง (optical) และหลักการของเสาอากาศ
TU | NU/UNSW | TOTAL | |
---|---|---|---|
1.General Courses | 28 | 2 | 30 |
1.1 Part 1 | |||
1.1.1 Social Sciences | 6 | 0 | 6 |
1.1.2 Humanities | 3 | 0 | 3 |
1.1.3 Science and Mathematics | 3 | 0 | 3 |
1.1.4 Languages | 9 | 0 | 9 |
1.2 Part II | 7 | 2 | 9 |
2.Engineering Major Course | |||
2.1 Basic Courses | 24 | 0 | 24 |
2.1.1 Basic Mathematic and Sciences Courses | 17 | 0 | 17 |
2.1.2 Basic Engineering Courses | 7 | 0 | 7 |
2.2 Major Courses | |||
2.2.1 Compulsory Engineering Courses | 37 | 0 | 36 |
2.2.2 Technical Electives Courses | 0 | 48 | 48 |
3.Free Electives | 6 | 0 | 6 |
Total | 144 |
วิศวกรอุตสาหการ เป็นผู้บริหารจัดการกับกระบวนการของระบบอันซับซ้อนภายในองค์กร และจำเป็นต้องพัฒนาปรับปรุงระบบอย่างบูรณาการ โดยคำนึงถึงศักยภาพของคน ต้นทุนการผลิต และทรัพยากรในส่วนของเครื่องจักร จะเห็นว่า ภารกิจหลักของวิศวกรโรงงาน คือการนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ในองค์กรมาบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุด
TU | NU/UNSW | TOTAL | |
---|---|---|---|
1.General Courses | 28 | 2 | 30 |
1.1 Part 1 | |||
1.1.1 Social Sciences | 6 | 0 | 6 |
1.1.2 Humanities | 3 | 0 | 3 |
1.1.3 Science and Mathematics | 3 | 0 | 3 |
1.1.4 Languages | 9 | 0 | 9 |
1.2 Part II | 7 | 2 | 9 |
2.Engineering Major Course | |||
2.1 Basic Courses | 24 | 0 | 24 |
2.1.1 Basic Mathematic and Sciences Courses | 17 | 0 | 17 |
2.1.2 Basic Engineering Courses | 7 | 0 | 7 |
2.2 Major Courses | |||
2.2.1 Compulsory Engineering Courses | 40 | 0 | 40 |
2.2.2 Technical Electives Courses | 0 | 45 | 45 |
3.Free Electives | 6 | 0 | 6 |
Total | 145 |
วิศวกรเครื่องกล มักถูกขนานนามว่าเป็น “ผู้เชี่ยวชาญสารพัดสิ่ง” เพราะจะต้องรวมเอาหลักการและทฤษฎีทางฟิสิกส์ วิศวกรรม และคณิตศาสตร์มาประยุกต์เข้ากับการออกแบบ รวมถึงวิเคราะห์การผลิต การบำรุงรักษาระบบเครื่องกลพลังงาน และเครื่องกลไฟฟ้า นอกจากนี้วิศวกรรมเครื่องกลยังเป็นหนึ่งในสาขาวิศวกรรมที่เก่าแก่และกว้างขวางที่สุด
TU | NU/UNSW | TOTAL | |
---|---|---|---|
1.General Courses | 28 | 2 | 30 |
1.1 Part 1 | |||
1.1.1 Social Sciences | 6 | 0 | 6 |
1.1.2 Humanities | 3 | 0 | 3 |
1.1.3 Science and Mathematics | 3 | 0 | 3 |
1.1.4 Languages | 9 | 0 | 9 |
1.2 Part II | 7 | 2 | 9 |
2.Engineering Major Course | |||
2.1 Basic Courses | 24 | 0 | 24 |
2.1.1 Basic Mathematic and Sciences Courses | 17 | 0 | 17 |
2.1.2 Basic Engineering Courses | 7 | 0 | 7 |
2.2 Major Courses | |||
2.2.1 Compulsory Engineering Courses | 37 | 0 | 37 |
2.2.2 Technical Electives Courses | 0 | 48 | 48 |
3.Free Electives | 6 | 0 | 6 |
Total | 145 |